เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของของการเลือกรูปแบบองค์กร
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของของการเลือกรูปแบบองค์กร
1.
กิจการเจ้าของคนเดียว
คือ กิจการที่มีบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของหรือลงทุนคนเดียว ควบคุมการดำเนินเองทั้งหมด เมื่อกิจการประสบผลสำเร็จมีผลกำไรก็จะได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว ในขณะเดียวกันก็ยอมรับการเสี่ยงภัยจากการขาดทุนเพียงคนเดียวเช่นกัน กิจการประเภทนี้มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุด การดำเนินงานไม่สลับซับซ้อน มีความคล่องตัวสูงในการตัดสินใจดำเนินงาน กิจการมีขนาดเล็กกว่าธุรกิจประเภทอื่น ตัวอย่างกิจการประเภทนี้ เช่น หาบเร่แผงลอย ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านเสริมสวย ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ปัจจุบันขอใบทะเบียนการค้าได้ที่ อบต. พื้นที่ที่จะจัดตั้ง
คือ กิจการที่มีบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของหรือลงทุนคนเดียว ควบคุมการดำเนินเองทั้งหมด เมื่อกิจการประสบผลสำเร็จมีผลกำไรก็จะได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว ในขณะเดียวกันก็ยอมรับการเสี่ยงภัยจากการขาดทุนเพียงคนเดียวเช่นกัน กิจการประเภทนี้มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุด การดำเนินงานไม่สลับซับซ้อน มีความคล่องตัวสูงในการตัดสินใจดำเนินงาน กิจการมีขนาดเล็กกว่าธุรกิจประเภทอื่น ตัวอย่างกิจการประเภทนี้ เช่น หาบเร่แผงลอย ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านเสริมสวย ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ปัจจุบันขอใบทะเบียนการค้าได้ที่ อบต. พื้นที่ที่จะจัดตั้ง
2.
ห้างหุ้นส่วน (Partnership)
เป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจ ที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปมาร่วมกันจัดตั้ง
กิจการ โดยเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน มีสัญญาเข้าเป็นหุ้นส่วนกัน และแบ่งผลกำไรกัน ห้างหุ้นส่วนมี
2 ประเภท คือ
ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Unlimited Partnership) ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนประเภทที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน
เพื่อหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนี้จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ก็ได้
กับห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership) คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทที่มีหุ้นส่วนบางคนรับผิดชอบเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตน
รับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้นเท่านั้น ความน่าเชื่อถือจะมากกว่า กิจการเจ้าของคนเดียวหรือร้านค้าธรรมดา
3.
บริษัทจำกัด (Limited Company)
เป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยการแบ่งเงินทุนเป็นหุ้นมี
มูลค่าเท่า ๆ กัน ผู้ถือหุ้นซึ่งก็คือเจ้าของกิจการต้องรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่
ตนเองจ่ายเงินลงทุน เช่น ถือหุ้น 20% จ่ายเงินไป 1 แสน ก็รับผิดชอบแค่ 1 แสน ดังนั้นใครถือเยอะก็รับผิดชอบเยอะ
ความน่าเชื่อถือมากกว่า 2แบบ
ข้อแตกต่างเจ้าของคนเดียว
ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัท
รายละเอียด
|
กิจการเจ้าของคนเดียว
|
ห้างหุ้นส่วน
|
บริษัทจำกัด
|
1.เงินลงทุน
|
มีเงินลงทุนจำกัด
|
ระดมทุนได้มากขึ้น
|
ระดมทุนได้ง่ายและมาก
|
2.การบริหารงาน
|
มีอำนาจในการตัดสินใจเต็มที่
|
ต้องปรึกษาหุ้นส่วน
|
บริหารโดยคณะกรรมการบริษัท
|
3.ความรับผิดในหนี้สิน
|
เต็มจำนวน
|
เต็มจำนวน
(กรณีไม่จำกัดความรับผิด)
จำกัด
(กรณีจำกัดความรับผิด)
|
จำกัดเฉพาะมูลค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ
|
4.ผลกำไรขาดทุน
|
รับคนเดียว
|
เฉลี่ยให้ผู้เป็นหุ้นส่วน
|
จ่ายเป็นเงินปันผลตามจำนวนหุ้นที่ถือ
|
5.รายจ่าย
|
ใช้อัตราเหมาจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้
ขึ้นกับเงินได้แต่ละประเภท
|
รายจ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น
|
รายจ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น
|
6.ภาษีเงินได้
|
ตามอัตราก้าวหน้า
สูงสุด37%
|
ห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน-ตามอัตราก้าวหน้า
สูงสุด37%
ห้างหุ้นส่วนจำกัด-15%-30%
|
ตามอัตราก้าวหน้า15-30%
|
7.การจัดทำบัญชี
|
ไม่ต้องจัดทำบัญชี
ส่งแต่แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
|
ห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน-ไม่ต้องจัดทำบัญชี
ส่งแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนจำกัด-จัดทำงบการเงินประจำปี
และเก็บเอกสารทางบัญชี
|
จัดทำงบการเงินประจำปี
และเก็บเอกสารทางบัญชี
|
8.ความน่าเชื่อถือ
|
ต่ำ
|
ปานกลาง
|
สูง
|
จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน (หจก.) หรือ บริษัท (บจก.) เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
1.ความรับผิดชอบ
ผู้ถือหุ้นในบริษัท จะรับผิดชอบเพียงมูลค่าหุ้นที่ถือและชำระแล้ว หรือค้างชำระ
แต่หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน รับผิดชอบไม่จำกัด ครับ
2.ค่าธรรมเนียมราชการ เฉพาะกระทรวงพาณิชย์และรับรองเอกสาร
บริษัทเฉพาะต้นทุนค่าธรรมเนียมจ่ายประมาณ 6,630 บาท
ห้างหุ้นส่วน เฉพาะค่าธรรมเนียมจ่ายประมาณ 1,350 บาท
หมายเหตุ:-ไม่รวมค่าใช้จ่ายจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และประกันสังคม
3.การทำบัญชีและการเสียภาษี ตามกฎหมาย
เหมือนกันทุกประการ ครับ
4.การรับรองงบการเงินประจำปี
บริษัทต้องลงโฆษณาเชิญประชุมผู้ถือหุ้นนสพ.ท้องถิ่นปีละครั้ง 500 บาท/ปี
ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ต้องลงโฆษณา 0 บาท/ปี
5.การเปลี่ยนสัดส่วนของเจ้าของนิติบุคคลระหว่าง ห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัท
บริษัทกิจการสามารถเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นของกิจการได้โดยตรงโดยกิจการเอง..ฟรี
แต่กรณีห้างหุ้นส่วนต้องไปแจ้งจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ เฉพาะค่าธรรมเนียมราชการ
จดเอาชื่อหุ้นส่วนเดิมออก คนละ 300 บาท
จดเพิ่มชื่อหุ้นส่วนเข้าใหม่ คนละ 300 บาท
กรณีไม่ได้ไปเองต้องจ่ายค่าทนายความรับรองครั้งละ ประมาณ 500 บาท
ถาม-ตอบ ทุกปัญหาด้านจดทะเบียนธุรกิจ / ขอใบอนุญาตทำงาน / ต่อวีซ่า
ท่านสามารถรับรู้ข่าวสาร การupdate ส่วนลดบริการด้านต่างๆ
พร้อมโปรโมชั่นอื่นๆอีกมากมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-862-2727 www.cka.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น