วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

.







เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของของการเลือกรูปแบบองค์กร

1.    กิจการเจ้าของคนเดียว
            คือ กิจการที่มีบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของหรือลงทุนคนเดียว ควบคุมการดำเนินเองทั้งหมด เมื่อกิจการประสบผลสำเร็จมีผลกำไรก็จะได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว ในขณะเดียวกันก็ยอมรับการเสี่ยงภัยจากการขาดทุนเพียงคนเดียวเช่นกัน กิจการประเภทนี้มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุด การดำเนินงานไม่สลับซับซ้อน มีความคล่องตัวสูงในการตัดสินใจดำเนินงาน กิจการมีขนาดเล็กกว่าธุรกิจประเภทอื่น ตัวอย่างกิจการประเภทนี้ เช่น หาบเร่แผงลอย ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านเสริมสวย ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ปัจจุบันขอใบทะเบียนการค้าได้ที่ อบต. พื้นที่ที่จะจัดตั้ง
2.    ห้างหุ้นส่วน (Partnership)
            เป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจ ที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปมาร่วมกันจัดตั้ง กิจการ โดยเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน มีสัญญาเข้าเป็นหุ้นส่วนกัน และแบ่งผลกำไรกัน ห้างหุ้นส่วนมี 2 ประเภท คือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Unlimited Partnership) ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนประเภทที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนี้จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ก็ได้ กับห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership) คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทที่มีหุ้นส่วนบางคนรับผิดชอบเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตน รับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้นเท่านั้น ความน่าเชื่อถือจะมากกว่า กิจการเจ้าของคนเดียวหรือร้านค้าธรรมดา
3.    บริษัทจำกัด (Limited Company)

            เป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยการแบ่งเงินทุนเป็นหุ้นมี มูลค่าเท่า ๆ กัน ผู้ถือหุ้นซึ่งก็คือเจ้าของกิจการต้องรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ ตนเองจ่ายเงินลงทุน เช่น ถือหุ้น 20% จ่ายเงินไป 1 แสน ก็รับผิดชอบแค่ 1 แสน ดังนั้นใครถือเยอะก็รับผิดชอบเยอะ ความน่าเชื่อถือมากกว่า 2แบบ


ข้อแตกต่างเจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัท  article
รายละเอียด
กิจการเจ้าของคนเดียว
ห้างหุ้นส่วน
บริษัทจำกัด
1.เงินลงทุน
มีเงินลงทุนจำกัด
ระดมทุนได้มากขึ้น
ระดมทุนได้ง่ายและมาก
2.การบริหารงาน
มีอำนาจในการตัดสินใจเต็มที่
ต้องปรึกษาหุ้นส่วน
บริหารโดยคณะกรรมการบริษัท
3.ความรับผิดในหนี้สิน
เต็มจำนวน
เต็มจำนวน (กรณีไม่จำกัดความรับผิด)
จำกัด (กรณีจำกัดความรับผิด)
จำกัดเฉพาะมูลค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ
4.ผลกำไรขาดทุน
รับคนเดียว
เฉลี่ยให้ผู้เป็นหุ้นส่วน
จ่ายเป็นเงินปันผลตามจำนวนหุ้นที่ถือ
5.รายจ่าย
ใช้อัตราเหมาจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ ขึ้นกับเงินได้แต่ละประเภท
รายจ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น
รายจ่ายตามจริงที่เกิดขึ้น
6.ภาษีเงินได้
ตามอัตราก้าวหน้า สูงสุด37%
ห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน-ตามอัตราก้าวหน้า สูงสุด37%
ห้างหุ้นส่วนจำกัด-15%-30%
ตามอัตราก้าวหน้า15-30%
7.การจัดทำบัญชี
ไม่ต้องจัดทำบัญชี ส่งแต่แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน-ไม่ต้องจัดทำบัญชี ส่งแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนจำกัด-จัดทำงบการเงินประจำปี และเก็บเอกสารทางบัญชี
จัดทำงบการเงินประจำปี และเก็บเอกสารทางบัญชี
8.ความน่าเชื่อถือ
ต่ำ
ปานกลาง
สูง


จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน (หจก.) หรือ บริษัท (บจก.) เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

1.ความรับผิดชอบ
ผู้ถือหุ้นในบริษัท จะรับผิดชอบเพียงมูลค่าหุ้นที่ถือและชำระแล้ว หรือค้างชำระ
แต่หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน รับผิดชอบไม่จำกัด ครับ

2.ค่าธรรมเนียมราชการ เฉพาะกระทรวงพาณิชย์และรับรองเอกสาร

บริษัทเฉพาะต้นทุนค่าธรรมเนียมจ่ายประมาณ               6,630 บาท
ห้างหุ้นส่วน เฉพาะค่าธรรมเนียมจ่ายประมาณ               1,350 บาท
หมายเหตุ:-ไม่รวมค่าใช้จ่ายจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และประกันสังคม

3.การทำบัญชีและการเสียภาษี ตามกฎหมาย

เหมือนกันทุกประการ ครับ

4.
การรับรองงบการเงินประจำปี

บริษัทต้องลงโฆษณาเชิญประชุมผู้ถือหุ้นนสพ.ท้องถิ่นปีละครั้ง           500 บาท/ปี
ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ต้องลงโฆษณา                                           0  บาท/ปี

5.
การเปลี่ยนสัดส่วนของเจ้าของนิติบุคคลระหว่าง ห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัท

บริษัทกิจการสามารถเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นของกิจการได้โดยตรงโดยกิจการเอง..ฟรี
แต่กรณีห้างหุ้นส่วนต้องไปแจ้งจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ เฉพาะค่าธรรมเนียมราชการ
จดเอาชื่อหุ้นส่วนเดิมออก                                                  คนละ      300   บาท
จดเพิ่มชื่อหุ้นส่วนเข้าใหม่                                                  คนละ      300   บาท
กรณีไม่ได้ไปเองต้องจ่ายค่าทนายความรับรองครั้งละ ประมาณ                500   บาท

ถาม-ตอบ ทุกปัญหาด้านจดทะเบียนธุรกิจ / ขอใบอนุญาตทำงาน / ต่อวีซ่า 

สนทนาสดผ่านทาง    LINE    และ FACEBOOK CKA  ได้แล้ววันนี้

ท่านสามารถรับรู้ข่าวสาร การupdate ส่วนลดบริการด้านต่างๆ

พร้อมโปรโมชั่นอื่นๆอีกมากมาย
    


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-862-2727 www.cka.co.th